Universal Music Group BV หรือเรียกย่อ ๆ ว่า UMG เป็นผู้ผลิตสื่อดนตรีและความบันเทิงระดับโลก มีศิลปินชื่อดังคับคั่งอย่างเช่น เทย์เลอร์ สวิฟต์, จัสติน บีเบอร์, เลดี้ กาก้า, เดรก รวมถึงมารูนไฟว์ เป็นต้น โดยมีเจ้าของเป็นบริษัทสื่อยักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศสอย่าง Vivandi มาดูกันว่าค่ายเพลงนี้มีความเป็นมาอย่างไรไปพร้อมกัน
จุดเริ่มต้นของ UMG
ยูนิเวอร์แซลมิวสิค กรุ๊ป เป็นหนึ่งในสามค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของโลก หรือที่เรียกกันว่า Big Three ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1934 ในสหรัฐอเมริกา ครั้งแรกใช้ชื่อว่า Decca Records และเปลี่ยนชื่อเป็น เอ็มซีเอมิวสิคเอนเตอร์เทนเมนท์ ในปี ค.ศ. 1990 บริษัท มัตสึชิตะอิเล็กทริค จากญี่ปุ่นได้ตกลงซื้อกิจการ MCA ในราคา 6.59 พันล้านดอลลาร์ ต่อมาในปีค.ศ. 1995 บริษัท Seagram ได้เข้ามาซื้อหุ้นกว่า 80 เปอร์เซ็นต์จากมัตสึชิตะ และปี ค.ศ. 1996 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Universal Studios ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 2006 กลุ่มบริษัทในเครือ Vivendi ตัดสินใจซื้อหุ้นที่เหลือ 20 เปอร์เซ็นต์จากมัตสึชิตะ และในปีเดียวกันได้เข้าซื้อกิจการโดยสมบูรณ์หลังจากได้รับอนุมัติตามกฎข้อบังคับของสหภาพยุโรป

ทำให้ Universal Music กลายเป็นบริษัทย่อยของบริษัท Vivendi ที่มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือ แวงชองต์ บอลลอเร มหาเศรษฐีชาวฝรั่งเศส ซึ่งได้ประกาศตัวเป็นเจ้าพ่อสื่อปีกขวาที่ทรงอิทธิพลอันดับต้น ๆ ของประเทศ แต่ยังคงให้ความสำคัญกับธุรกิจด้านโทรทัศน์ การโฆษณา และสื่อสิ่งพิมพ์ มากกว่าการผลิตศิลปินและผลงานเพลง
UMG มีสำนักงานใหญ่อยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นแหล่งทำเงินสูงสุดของอาณาจักร Vivendi โดยสามารถสร้างรายได้เฉลี่ยต่อปีถึง 7,400 ล้านยูโร คิดเป็น 46 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ทั้งหมดของบริษัทแม่ที่ได้รับจากการดำเนินกิจการในทุกกิจกรรม
UMG จึงถือได้ว่าเป็นผู้ผลิตอุตสหกรรมเพลงรายใหญ่ที่สุดในกลุ่ม Big Three โดยมีคู่แข่งที่สำคัญอย่าง วอร์เนอร์ มิวสิค กรุ๊ป และโซนี่มิวสิค โดยก่อนหน้านี้ทุกค่ายได้รับผลกระทบจากการละเมิดลิขสิทธิ์ทั้งจากเทปผีซีดีเถื่อน แต่ Universal Music กลับมาพื้นตัวและทำกำไรจากยุคของการสตรีมมิงเกิดขึ้นบนโลกใบนี้
บรรดานักวิเคราะห์ต่างมองว่าในอุตสาหกรรมเพลงของโลกถูกประเมินราคาต่ำกว่าความเป็นจริง โดยเจพี มอร์แกน คาเซโนฟ โบรกเกอร์ชื่อดังคาดว่ามูลค่าที่แท้จริงของ UMG อาจมีมูลค่าสูงถึง 6.4 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือกว่า 2.13 ล้านล้านบาทเมื่อคิดเป็นเงินไทย นอกจากนี้การซื้อลิขสิทธิ์ผลงานเพลงทั้งหมดของ บ๊อบ ดีแลน ศิลปินดัง มูลค่ากว่า 300 ล้านดอลลาร์ถือเป็นการซื้อลิขสิทธิ์เพลงครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของประวัติศาสตร์วงการเพลงอีกด้วย
ไม่ได้ขายความเป็นเพลงเท่านั้น
หลังจากเปิดขายหุ้นต่อสาธารณชน หรือ ไอพีโอเป็นครั้งแรก โดยจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ยูโรเน็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ของประเทศเนเธอร์แลนด์ ก็สร้างปรากฎการณ์เขย่าตลาดหุ้นยุโรป และวงการเพลง โดยมีมูลค่าสูงที่สุด ปิดเพิ่มอย่างแข็งแกร่งเกือบ 40 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ค่ายเพลงนี้มีมูลค่าพุ่งสูงถึงกว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 5 แสนล้านบาทภายในวันเดียว
หลังจากเปิดตลาดหุ้นอย่างเป็นทางการ คาดว่า UMG ไม่พึ่งพาอุตสาหกรรมเพลงอย่างเดียวอีกต่อไป เพราะในปัจจุบันมีถึง 3 ธุรกิจหลัก ประกอบด้วย เพลงอัดเสียง การจำหน่าย และการโฆษณา และกำลังขยายไปสู่ธุรกิจ การจัดแสดงสด ไลฟ์สตรีม ภาพยนตร์ โทรทัศน์ และพอดคาสต์อีกด้วย
เครดิตภาพ : jpopthailand.com / today.line.me
#ประวัติค่ายเพลง Universal Music #UMG #ข่าววงการเพลง